ส่วนหนึ่งจักรจะเสียไม่เสียเร็ว หรือเสียง่าย ก็ขึ้นอยู่กับคำแนะนำให้ลูกค้าของผู้มาส่งเครื่องด้วยครับ ถ้าเขาแนะนำวิธีดูและเครื่องหยอดน้ำมันที่ถูกต้อง ลูกค้าผู้ใช้เครื่องก็จะทำการหยอดดูแลได้ถูกต้อง
แต่ถ้าผู้มาส่งเครื่องก็เป็นช่างที่ไม่ค่อยรู้เรื่องเครื่อง หรือรู้ แต่ไม่ค่อยใส่ใจให้คำแนะนำลูกค้าในวิธีที่ถูกต้อง ก็อาจทำให้ลูกค้าได้รูวิธีการหยอดน้ำมันรักษาที่ดีพอ ทำให้จักรนั้นเสียก่อนเวลาอันควรได้
ผมเคยเจอคนขอคำปรึกษาผม 2 กรณีย์ คือ
1.ช่างผู้มาส่งเครื่องพึ่งเข้างานได้ 3 วัน(อันนี้ลูกค้ารู้หลังคนมาส่งเครื่องได้ออกไปแล้วหลังมาส่งเครื่องได้ไม่นาน) แนะนำวิธีที่ไม่ถูกต้อง มีดตัดด้ายอย่าไปหยอกน้ำมัน ใส่เข็มใส่เอียงถึงจะดี บ้าหรือเปล่า บางทีแนะนำไปก็ต้องย้ำว่า คุณจะเชื่อช่างของบริษัทหรือจะเชื่อผม ซึ่งเมื่อเขาได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง เขาใช้จักไป 3 ปี ไม่เคยโทรติดต่อกับบริษัทเลย เพราะก่อนขอคำแนะนำจากผมเขาโทรไปเป็นเดือนช่างก็ยังไม่มา
2.น้องคนหนึ่งเล่าให้ฟัง " พี่ช่างบอกหนูหยอดน้ำมันผิดที่ จุดนั้นเขาไม่ให้หยอดน้ำมัน แต่ช่างแนะนำหนูหยอด " น้องเขาไปงานสัมนาที่ระยอง แล้วไปเห็นการรื้อเครื่อง บอกจุดหยอดน้ำมัน น้องถึงรู้ว่าช่างที่มาส่งเครื่องแนะนำผิด เพราะจุดตรงนั้นมันเป็นบอร์ดอิเล็กทรอนิกส์
***ก่อนที่ผมจะมาตอบปัญหาคนเรื่องเรื่องการซ่อมจักร ผมก็เหมือนคนทั่วไปที่ไม่รู้เรื่องจักร คิดว่าจักร คือเครื่องจักรเทวดา แต่ผมดีกว่าคนอื่นตรงที่ ผมเคยทำงานด้านช่างซ่อมบำรุง ผมคือหัวหน้าช่าง หัวหน้าวิศวะกร หัวหน้าฝ่ายผลิต ผ่านการอบรมมามากมายในการทำงานด้านอุตสาหกรรม จึงสามารถเรียนรู้เทคนิควิธีการต่างๆได้ไม่ยากเกินไป
-ผมซื้อจักรตัวเเรก จักรจีน 6 หัว คนที่มาส่งเครื่องก็เป็นเด็กใหม่ แนะนำวิธีการหยอดน้ำมันก็ไม่ถูกต้อง ทำให้จักรผมใช้งานไป 1 ปี 4 เดือน จักรมีปัญหาลูกเบี้ยวแตก เพราะการไม่ถูกหยอดน้ำมันื ผมต้องซื้อลูกเบียวจากบริษัท 1700 บาท/1 ชิ้น เพื่อมาเปลี่ยน ก่อนจักรจะหมดประกันช่างก็มาเชอร์วิสก่อน ผมถามช่างว่าอาการเป็นแบบนี้ก็ไม่มีใครตอบได้ ตอนนั้นผมก็ด่าทางบริษัทไปเมื่ออาการมันโผล่หลังจักรหมดประกันแค่ 2 เดือน ตอนนั้นบริษัทให้ผมซื้อลูกเบี่ยว 1 ชิ้น แต่ผมขอให้ส่งมา 3 ชิ้น เพื่อเปลี่ยน 2 หัว เพราะผมถือว่าช่างของบริษัทบกพร่องในการแนะนลูกค้า
-ซื้อตัวที่ 2 จักรจัน 18 หัว ตอนมาส่งเครื่องมีทั้งช่างจีน ช่างไทย แต่เห็นวิธีการทำงานแล้วผมมองว่าถ้าผมปล่อยไปตามวิธีเขาผมทำงานไม่รอดแน่ จักรปักงานไม่รอดเพราะด้ายขาดบ่อย หลังจากนั้นผมจึงเรียนรู้วิธีปรับตั้งจักร ศึกษาหลักการทำงานของจักร ปรับจักจนมันปักได้นึ่งที่สุด เพราะถ้าผมปล่อยตามบุญกรรมผมคงต้องปล่อยให้เขายึดจักรแน่ เพราะมันทำงานไม่ได้เรื่องเลย
เมื่อผมรู้ถ่องแท้ ผมก็ไม่ให้ช่างของบริษัทเข้าบ้านผมเลย เวลาทวงค่างวดก็เจอด่าเข้าด้วย เพราะมันแค้น เพราะถ้าเราไม่เก่งเราก็ไม่รอด
***คนที่ทำอาชีพให้บริการ ไม่ว่าจะขายเครื่อง ซ่อมเครื่อง หรือ รับจ้างตีลบ็อกปัก ถ้าเราเก่งจริง เข้าใจหลักการทำงานจริง ลูกค้าที่ใช้บริการเราก็จะมีปัญหาน้อยในการทำงาน
-ผมเขียนอะไรตรงๆ เพราะอยากให้เจ้าของจักรทุกคนอย่าคิดว่าคนที่เขาทำอาชีพให้บริการจะเก่งทุกคน ใช่ว่าช่างจะเก่งทุกคน ใช้ว่าคนรับจ้างตีลายปักจะทำลายปักดีทำให้จักรปักงานได้ดีต่อเนื่องทุกคน
ถ้าเจ้าของจักร เจ้าของกิจการไม่พัฒนาตัวเองให้รู้ให้เก่ง คุณก็จะทำงานยาก แต่ถ้าเราเก่งทุกอย่างมันเป็นเรื่องง่ายไม่ว่าจะทำเองหรือใช้คนอื่นทำ
ผมเขียนอะไรตรงๆเพื่ออยากให้คนไทยมีสปิริตในหน้าที่ของตัวเองในการประกอบอาชีพงานปัก ทำงานปัก ทำลายปักไม่เป็นก็ศึกษาเรียนรู้ เมื่อเรียนรู้แล้วก็ยังทำไม่ได้ ก็จ้างเขาทำไม่ใช่การขอ อาชีพงานปักไม่ใช่อาชีพขอ ทำงานอาชีพต้องมีสปีริตกันมั้ง เป็นช่างซ่อมจักร ก็ซ่อมจักรลูกค้าให้ดีให้ทนสมราคาค่าซ่อม เป็นคนรับจ้างตีลายปักก็ทำแบบปักให้ปักได้ดีจริงๆ ไม่รู้รู้เท่าหางอึ่งมารับจ้างซ้อมจัก มารับจ้างตีลายปัก แค่นั้นและที่ผมยังต้องเขียนอะไรตรงๆเมื่อคนคิดทำอาชีพงานปักม่รู้จักพัฒนาตัวเอง "สำนึกดี สังคมดี" นั่นคือสิ่งที่คนไทยต้องช่วยกันพัฒนากันต่อไปหากเราอยากเห็นลูกหลานเราอยู่ในชาติที่พัฒนาแล้ว