;)เทคนิคการปรับเครื่องแบบผม
1.ปรับความตึงของด้ายที่จุดที่ 1. เป็นจุดหลักที่มีแรงบีบให้มีความฝืดตึงเป็นอันดับแรก(ถ้าเป็นจักรแบบไม่มีสายท่อยาง เวลาปักงานจะมองเห็นความชัดเจนความตึงของด้ายชัดเจนมาก ถ้าเส้นด้ายสะบัดตอนปักงานก็ปรับเพิ่มแรงบีบของจุดบนให้บีบแน่นขึ้นนั่นเอง)
2. ปรับความตึงในจุดที่ 2. เป็นจุดตาม (เน้นปรับความตึงหย่อนของด้ายที่จุดที่ 1 เป็นหลัก)
3.ในจุดที่ 3 หนวดกุ้งของจักรรุ่นนี้ทำจุดปรับหนวดกุ้งไว้ที่จุดเดียวกันทั้งหมด(ถือเป็นหลักเทคนิคที่ไม่ดีในการออกแบบเครื่อง เพราะเราไม่สามารถปรับความแข็งแบบอิสระให้หนวดกุ้งเฉพาะสีเข็มได้ แต่จักรรุ่นใหม่ๆเขาพยายามทำกันแบบนี้เพื่อลด Cost ต้นทุนการผลิตเครื่องจักร)
ในจุดนี้เจ้าของเครื่องต้องรู้จักปรับระดับความแข็งของหนวดกุ้งให้เข้ากับด้ายของตัวเองที่ใช้ เพราะคุณสมบัติของโลหะ เมื่อสัมผัสดับด้ายที่ผลิตจากวัสดุชนิดต่างกันย่อมให้ผมการไหลลื่นของด้ายที่ต่างกัน
หลักการตรวจเช็คแรงดึงฝืดตึงของด้ายในแต่ละสี1.ให้ดึงด้ายในจุดล่างของเครื่องที่ร้อยด้ายผ่านหนวดกุ้งแล้ว ดึงทดสอบด้วยแรงการไหลลากธรรมะดา(ไม่ใช่การดึงแบบกระชาก)ดึงให้เหมือนธรรมะชาติของการปักงานที่ด้ายมีการวิ่งที่พอดี ถ้าอยากรู้ว่าแรงบีบที่มีเกิดจากจุดไหนมากที่สุด
ท่านก็ลองเอามือไปยกไม่ให้เกิดแรกบีบที่จุด 1 หรือ 2 ดู (ยกที่ละจุด) ท่านก็จะรู้เองว่าจุดไหนมีแรงบีบน้อย แรงแบีบมาก และท่านสมควรลด หรือ เพิ่มแรงบีบที่จุดไหน (เน้นปรับที่จุด 1 เป็นหลักก่อนนะครับ ถ้าบีบจุดหนึ่งแล้วมันยังฝืดไม่พค่อยมาบีบจุด 2 )
เทคนิคการปรับงานทุกอย่างที่ถูกต้องคือ การปรับให้ค่าแรงดึงต่างๆใกล้เคียง 0 (ศูนย์) คือการไม่ให้มีแรงดึงก่อนแล้วปักงานดู แล้วจึงค่อยๆปรับเพิ่มแรงดึงให้กับมันครับ ไม่ใช่เริ่มปักงานก็ตะบี้ตะบันหลับหูหลับตาปรับให้ดึงให้ฝืดให้แน่นสถานเดียว เทคนิคนี้ใช้กับทั้งการปรับด้ายบนและด้ายล่างครับ
2. ลองกดหนวดกุ้งลงแต่ละระดับ แล้วลองดึงด้ายดูไปด้วย จะเห็นความดระด้างของด้ายที่ฝืดเพิ่มขึ้น เมื่อสปริงมีความแข็งที่ต่างกัน ข้อเสียของการออกแบบปรับสริงที่จุดเดียวแล้วคุมได้ทุกเข็มคือ ถ้าเราใช้ด้ายหลายยี่ห้อหลายชนิด ซึ่งด้ายแต่ละชนิดความหนึดของด้ายไม่เท่ากันอยู่แล้ว ดังนั้นเพื่อลดปัญหาในการปรับเครื่องให้เจ้าของเครื่องเลือกใช้ด้ายยี่ห้อเดียวที่ท่านคิดว่าเครื่องท่านปักได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นแบบโพลี หรือ เรยอน ครับ เพราะถ้าท่านปรับไม่เก่งปัญหามันเกิด แต่ถ้าท่านปรับเก่งเข้าใจหลักการท่านเลือกใช้แบบไหนหรือหลายแบบก็ได้
คุณไม่สามารถดูข้อความนี้.กรุณา
ลงทะเบียน หรือ
เข้าสู่ระบบการปรับความตึงของด้ายล่างดูในครับที่สมาชิกรุ่นเก่าๆเคยทำไว้ที่บ้าน thai.sewsense.com ครับคุณไม่สามารถดูข้อความนี้.กรุณา
ลงทะเบียน หรือ
เข้าสู่ระบบส่วนวิธีการอเากระสวยใส่เข้าไปในกระโหลก ตามรูปนี้คือวิธีที่ถูกต้องและดีที่สุด ครับ
โดย 1. จับกระโหลกด้วยมือซ้าย หันด้านใส่ด้ายเข้าหาตัวเรา
2. จับกระสวยด้วยมือขวา โดยให้อยู่ในลักษณะดังรูป ใส่เข้าไปในกระโหลกแล้วดึงตรวจสอบความตึงของด้ายทุกครั้งที่มีการเปลี่ยด้ายล่าง เพื่อเราจะได้รู้ว่าด้ายล่างฝืดึง หรือหย่อนไปหรือไม่ ครับ
คุณไม่สามารถดูข้อความนี้.กรุณา
ลงทะเบียน หรือ
เข้าสู่ระบบเทคนิคการเปลี่ยนกระสวยด้ายล่าง คิดแบบการทำงานอุตสาหกรรม สำหรับจักรปักหายหัววิธีที่ 1 เปลี่ยนด้ายล่างใหม่ทั้งหมด
ข้อดี เครื่องจะมีปัญหาการหยุดเพราะด้ายล่างหมดเพียง 1 ครั้ง กระสวยปันทั่วไปถ้าด้ายล่างเบอร์เล็กจะสามารถปักงานได้เกิน 1 หมื่นฝีเข็มอยู่แล้ว เครื่องจักรเดินเรียบไม่หยุดบ่อยปัญหางานปักเสียปักไม่เต็มเพราะด้ายล่างหมด ไม่มี
ข้อเสีย ด้ายหมดไม่เท่ากันจำเป็นต้องดึงด้ายในส่วนที่เหลือทิ้ง
วิธีที่ 2 เปลี่ยด้ายล่างแบบแยกกลุ่มหัว เช่น หัว 1-5 6-10 11-15 16-20 ให้อยู่ในกลุ่มเดียวกัน เมื่อด้ายล่างในกลุ่มนั้นหมดก็ทำการเปลี่ยนด้ายล่างแบบยกชุดในกลุ่มนั้นเลย วีธีนี้จะทำให้เราเห็นว่าหัวไหนด้ายมักหมดก่อน หมดเพราะด้ายล่างดึงหน้อยกว่าหัวอื่นก็ปรับความดึงเพิ่มขึ้นเพื่อให้ด้ายหมดใกล้เคียงกัน และด้ายหัวไหนที่เหลือเยอะเราก็เก็บไว้เปลี่ยนในกลุ่มอื่นที่ด้ายหมดก่อนได้เพื่อลดภาระการดึงด้ายทิ้งเยอะ
ข้อดี อาจเสียเวลาเปลี่ยนด้ายล่างน้อยลง
ข้อเสีย เกิดปัญหาเครื่องหยุดเพราะด้ายล่าง 5 ครั้งขึ้นไป
วิธีที่ 3 เปลี่ยนด้ายล่างทีละหัวเมื่อด้ายล่างหมด อันนี้เป็นวิธีแบบชาวบ้านๆทั่วไปใช้กันอยู่
ข้อดี ไม่ต้องคิดมากด้ายหมดก็เปลี่ยน
ข้อเสีย ถ้าปักงานฝีเข็มเยอะๆระดับ 7 พันเข็มหรือ หมื่นเข็มขึ้นไป หรือ 2 3 4 หมื่นฝีเข็ม กว่าจะจบงานปัก 1 ชุด จะเกิดปัญหาเครื่องหยุดเพราะด้ายล่างหมดถึง 20 ครั้ง เสียเวลาย้อนปักงานซ่อม ประเดินปักหลายสี อาจมีบางงาน บางสีงานปักไม่จบแล้วเครื่องเปลี่ยนไปปักสีอื่นจึงโชว์ด้ายหมด ทำให้งานชิ้นนั้นเป็นงานเสียได้ เป็นต้น ถ้าใครใช้จักปักหลายหัวแล้วมาเลือกเปลี่ยด้ายล่างทีละอันเมื่อด้ายหมด สำหรับผมถือว่าวิธีการคุมเครื่องไม่เข้าใจระบบการทำงานแบบอุตสาหกรรม ทำให้เครื่องหยุดบ่อย เครื่องมีโอกาศเสียบ่อย การทำงานเกิดความล่าช้าเป็นต้น
ประเด็นงานฝีเข็มทั่วไปผมจะใช้วิธีที่ 2
ประเด็นปักงานด้ายสีขาวก็ใช้วิธีที่ 3 เพราะไม่ซีเรียสเรื่องย้อนซ่อมงานแล้วด้ายล่างสีขาวโผล่ขึ้นมา เป็นต้น
ประเด็นงานฝีเข็มหลายหมื่นฝีเข็มจะใช้วิธีที่1 หรือประเด็นที่ต้องปักงานฝีเข็มเยอะๆ ผมจะเลือกดึงด้ายล่างออกมาเช็คทุกหัวก่อน หัวไหนเหลือน้อยกว่า 80 เปอร์เเซนต์ก็จะเอาออก เอาด้ายเต็มใส่เข้าไปแทน แล้วเก็บด้ายล่างนั้นไว้เปลี่ยนหัวที่หมดก่อน หรือเอาไว้ใช้กับงานฝีเข็มน้อย เป็นต้น
***ด้ายล่างจัดเป็นด้ายราคาถูก ถ้าคิดแบบอุตสาหกรรมเขาไม่มานั่งเสียดายด้ายล่างหรอก เพราะถ้าจักดี คุมด้ายล่างเป็นปัญหาจักรจะมีน้อยลงครับ
*****วันนี้ขอเขียนแค่นี้ก่อนวันหน้าจะเขียนต่อใหม่ครับ ค่อยอ่านไปเรื่อยๆจนกว่าจะเขียนจบแล้วกันครับ หลักมันเยอะอยู่***
อากาศร้อนๆเขียนไม่ค่อยออก