มีข้อคิดเห็นมาให้พิจารณา ในการเลือกซื้อจักรมือสอง ครับ ขอยกตัวอย่างการเจรจาก่อนซื้อ และผลที่ได้ หลังซื้อไปแล้วครับ
ผู้ซื้อ...จักรมือสองตัวนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ
ผู้ขาย.. สภาพดี อุปกรณ์ครบ ของแถมเหมือนมือหนึ่ง รับประกันหนึ่งปี ฟรีทุกอย่าง
จักรมาลง... สดึงบางขนาดไม่มี บางขนาดไม่ครบ
เหตุผลผู้ขาย...ของมือสองได้มายังไงก็ขายไปอย่างนั้น
ผู้ซื้อ..แล้วเงินดาวน์แบ่งจ่ายได้มั้ยครับ ส่วนหนึ่งจ่ายก่อนวันลงเครื่อง ส่วนที่เหลือภายในเดือนนั้น
ผู้ขาย...ได้ ก่อนลงหนึ่งส่วน ที่เหลือจะจ่ายยังไง
ผู้ซื้อ ...ทุกสิบวันครับ วันที่ 10/20/30
ผู้ขาย..ตกลง
ลงเครื่องวันที่ 1 ปักงานจริงวันที่ 6-8
ผู้ขายมาเซ็นสัญญา พร้อมถามว่ามีอะไรขัดข้องมั้ย
ผู้ซื้อ..น่าจะมีไฟบอกต่ำแหน่งเข็มน่ะที่ไม่ติด
ผู้ขาย..จะแจ้งช่างให้
วันที่6-8 ปักงานไปสังเกตุเครื่องไปทำไมไม่มีเซ็นเซอร์เตือน ดังเลย
ปักไปเสื้อเสียไป 10 กว่าตัว เพราะด้ายล่างหมดก็ไม่เตือน ปักไปเรี่ยยเปื่อย
ไหมตัดไม่ขาดก็ไม่เตือน ต้องยืนจ้องเครื่องตลอดเวลาเห็นทีจะต้องแจ้งช่างมาเช็คดูสักหน่อย
น่าจะเซ็นเซอร์อะไรขัดข้องเป็นแน่ งานก็เร่งเครื่องก็ขัดข้อง
วันที่ 8 กี่โมงไม่ทราบได้ ผู้ขาย โทรมาแจ้งเรื่องการซ่อมว่า ไม่สามารถแจ้งช่างไปซ่อมเครื่องให้ท่านได้เนื่องจากท่านยังชำระค่าเงินดาวน์ไม่ครบ
ถ้าท่านจ่ายครบเมื่อไหร่ถึงจะแจ้งช่างให้ไปเช็คซ่อมได้
:036:ตาย..ตาย..ตาย..ฉันตายแน่
ผมต้องปิดเครื่องปักเตรียมคืน ต้องยกเลิกออเดอร์บางส่วน ต้องส่งเสื้อบางส่วนไปให้บางร้านช่วยปัก
ต้องเอาเสื้องานเร่งไปปักหน้าร้าน ต้องขอเลื่อนลูกค้า ต้องเหมาแท็กซี่ ไปกระจายเสื้อปักตามร้านต่างๆ เสื้อเกือบพันตัว
สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นได้เสมอ แต่กรณีนี้ไม่เคยเจอจริงๆ เพิ่งลงเครื่องได้แค่ 8วัน แท้ๆทำไปได้
สรุปเหตุการต่างๆก็ผ่านไปด้วยดี ด้วยการคุยกันระหว่างผู้ซื้อผู้ขาย และหาทางแก้ไขร่วมกัน