ฝุ่นนิมันร้ายกาจจริงๆ
:fight:เลยนะครับว่าไหม เอาจริงๆเลยนะ จักรส่วนมากที่เสียก็เพราะคนใช้ไม่ค่อยดูแลทำความสะอาดเป็นส่วนใหญ่ครับ ผมเลยมีแนวคิดที่ว่า ถ้าจะซ่อมจักรต้องทำความสะอาด หรือไม่ก็ต้องเทสปักก่อนเสมอ ครับถึงลูกค้าจะบอกอาการมาแล้วก็ตาม เป็นวิธีสังเกต อาการจักรอย่างหนึ่ง ครับเพราะความคิดในแง่มุมของคนแต่ละคนไม่เหมือนกันอยู่แล้ว บางที่อาการที่เสียอาจจะไม่ได้เสียตรงที่เราคิดตอนลูกค้าบอกมาก็ได้ครับ
มุมของผม
เสียคือเสีย
ไม่เสียคือไม่เสีย
บางครั้งไม่เสีย แต่ปักไม่สวย
บางครั้งไม่เสียแต่ลูกค้าใช้จักรไม่ค่อยเป็น(เฉพาะมือใหม่)พอจักรมีอาการ นิดหน่อยก็ตกใจนึกว่จักรเสีย
บางครั้งไม่เสียแต่ลูกค้าเป็นคนทำเสีย แล้วก็ไม่ความจริงเพราะกลัวโดนด่า(ไม่มีใครกล้าด่าหรอก)
ติดนิสัยชอบทดลอง ใช่ความน่าจะเป็น และการสังเกตการณ์ มาบวกกัน จึงต้องทดสอบจักรเองกับมือก่อนถึงจะลงมือซ่อมครับ
ผมอ่านของท่าน phuchong ไม่ค่อยเข้าใจอะครับ ใคร่ขอชี้แจงดังนี้นะครับ
1.ตอนแรกอาการของจักรก็คือแขนสะดึงไม่วิ่ง ก็เลยนำจักรไปที่บริษัทฯ พอช่างถอดออกมาพบว่าสายที่ต่อไปยังมอเตอร์ที่ขับเคลื่อนแขนสะดึงขาดก็เลยเปลี่ยนใหม่ให้
2.เนื่องจากจักรซื้อมาประมาณ 8ปีแล้ว ผมเลยให้ช่างช่วยเช็คมอเตอร์ที่ควบคุมการทำงานของจักร ช่างก็เลยเปิดมอเตอร์มาดู ช่างเขาก็เลยแนะนำว่าให้เปลี่ยนได้เลย
3.ช่างเขาก็ใช้เครื่องเป่าลมเป่าจักรทั้งหมดเพื่อไล่ขี้ฝุ่นแล้ว แต่ที่เสียต่อมาก็คือสายเสียบกับตัวอ่านการ์ดมันเปื้อน ซึ่งตอนแรกผมเห็นช่างเขาเอาเครื่องเป่าลมเป่าแล้ว
4.เนื่องจากอาการนี้ยังไม่เคยเกิดขึ้นเลย และที่บริษัทฯไม่มีการ์ดให้ลองด้วย ได้แต่ลองปักโดยไม่ได้ใช้การ์ดอัดลาย ซึ