ThaiEMB.com สังคมแห่งมิตรภาพ และการแบ่งปัน
วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2567, 15:22:29 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เว็บบอร์ด   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
collapse
กฏ-กติกา : ห้ามจำหน่าย, จ่ายแจก ซอฟแวร์ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ในเว็บบอร์ด Thaiemb แห่งนี้โดยเด็ดขาด
ไม่ว่าจะเป็นทางหน้าบอร์ด หรือหลังไมค์(PM) หากพบเห็นท่านจะถูกแบน User ถาวร.!!!
หากท่านถูกในในผลงาน หรืออยากสนับสนุนให้ผู้สร้างสรรค์ผลงานมีกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงาน
โปรดช่วยบริจาคให้ผู้จัดทำบ้างตามกำลังนะครับ.!!!  062

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วิกฤตศรัทธา  (อ่าน 3504 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sak2509
Full Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 127
สมาชิก Nº: 452

คำขอบคุณ
-ได้ให้: 571
-ได้รับ: 315


« เมื่อ: วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2556, 17:22:12 »

วิกฤตศรัทธาของศาสนา ไม่ได้แก้กันที่พฤติกรรมของพระ
แต่แก้กันที่ความเข้าใจของฆราวาส!

ไม่มีใครเริ่มชีวิตด้วยการเป็นพระ
ชีวิตมีแต่เริ่มด้วยการเป็นฆราวาสกันทั้งนั้น
พระเป็นอย่างไร ก็จากการที่เคยเป็นฆราวาสแบบไหน
มีความรู้ความเข้าใจธรรมะอย่างไรจึงเข้ามาบวช
และเมื่อเป็นพระแล้ว จะอยู่บนเส้นทางของอัตตาหรืออนัตตา
ก็ขึ้นอยู่กับการที่ฆราวาสเลี้ยงดูส่งเสริม
ให้พวกท่านเป็นพระหรือเป็นพาล

พุทธศาสนาจะรุ่งเรืองในยุคที่
ฆราวาสส่วนใหญ่สนใจและรู้จักธรรมะ
ฆราวาสส่วนใหญ่ไม่มองว่าธรรมะฝากไว้ที่วัด
ฆราวาสส่วนใหญ่มองว่าที่แท้ธรรมะต้องมีอยู่ในบ้านตัวเอง

นั่นหมายความว่า
พุทศาสนาต้องเปลี่ยนจากยุคบอกต่อว่า ‘พระวัดไหนดี’
มาเป็นช่วยๆกันตอบว่า ‘ธรรมะข้อไหนดี’ ที่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ผล
หรือหากจะไปวัด ก็ช่วยๆกันอธิบายว่า ‘ถวายอะไรดี’
ที่จะไม่เปลี่ยน ‘คนอยากบวช’ ให้กลายเป็น ‘พระอยากสึก’

เมื่อใดธรรมะไม่ใช่แค่ของสูงขึ้นหิ้ง
ไม่ใช่แค่ความรู้เอาไว้ข่มขี่กัน
ไม่ใช่หัวโขนเอาไว้หลอกตากัน
แต่เอาไว้แก้ทุกข์และเพิ่มสุขในชีวิตประจำวันให้กันและกัน
เมื่อนั้นธรรมะจะเผยความเป็นอมตะ
มีศรัทธาอันมั่นคงของผู้คนเป็นที่ตั้ง
ไม่ต้องโดนเย้ยหยันกันในภายหลังว่า
ศรัทธาทางธรรมก็แค่แสงเทียนอายุสั้นที่ดับง่าย
เพียงด้วยการเป่าของมารศาสนาตนใดตนหนึ่ง หรือหลายๆตน
บันทึกการเข้า
 
boynarak
Full Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 211
สมาชิก Nº: 101

คำขอบคุณ
-ได้ให้: 144
-ได้รับ: 536


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2556, 18:33:36 »

พูดยากครับ ทั้งคนที่ถวายของให้พระและพระ(ที่ไม่รู้จักพอเพียง) ถ้าพระไม่พูดว่าอยากได้อะไร ญาติโยมก็คงไม่ถวาย และญาติโยมก็คิดแต่จะให้พระผู้ใหญ่สบาย ก็จะหาของที่อำนวยประโยชน์ไปถวาย อีกหน่อยก็คงจะต้องหา ฮ.ถวายให้เจ้าอาวาสไว้ใช้เวลามีกิจนิมนต์ เฮ้อ... ไม่ใช่ว่าจะอคิตกับศาสนา แต่เราควรจะรู้จักซื้อของถวาย เจริญพรโยม Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า
boynarak
Full Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 211
สมาชิก Nº: 101

คำขอบคุณ
-ได้ให้: 144
-ได้รับ: 536


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2556, 20:46:51 »

ผมขอถามหน่อยว่า ถ้าญาติโยมใส่ซองไม่ถึง 200 บาท แล้วพระพูดว่า ขาดทุน น่าเกียจไหม แล้วพูดให้ญาติโยมได้ยินด้วย นี่แหละผู้ร้ายในคราบผ้าเหลือง ช่วงนั้นผมก็บวชอยู่ แม้แต่คนที่หาเงินมาสร้างโบสถ์ยังพูดว่า ไม่น่าสร้างโบสถ์เลย คือหมดศรัทธาต่อวัดนี้เลย กิจนิมนต์ยังแยงกันไปเลย เล่นพรรคเล่นพวก จะว่าผมบาปก็ยอม แต่เป็นเรื่องที่ผมประสบมาเอง ผมบวชมา 3 ปี รู้หมดในวัด พระโดนคดี
ยาเสพติด ยังกลับไปเปลื่ยนเป็นนุ่งกางเกงไปศาลเลย  Cheesy Cheesy Cheesy Huh? Huh? Huh?
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.16 | SMF © 2011, Simple Machines
SimplePortal 2.3.7 © 2008-2024, SimplePortal

SMFAds for Free Forums

Clear Mind Theme, by StathisG
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.037 วินาที กับ 28 คำสั่ง