ThaiEMB.com สังคมแห่งมิตรภาพ และการแบ่งปัน

  สำหรับโปรแกรม Wilcom หลังจากที่ออกเวอร์ชั่นสุดท้ายคือ Wilcom 2006 แล้ว ก็ได้ออกโปรแกรมเป็นซีรีส์ใหม่คือ ตระกูล Decostudio ออกมา โดยเวอร์ชั่นแรกที่ออกมาคือ Decostudio e1 ประกฎว่าผลตอบรับค่อนข้างไม่ดีเนื่องจากทาง Wilcom ได้ตัดเครื่องไม้เครื่องมือในการทำลายปักแบบ Manual ออกเสียหมดสิ้น ทำให้ทาง Wilcom ต้องรีบเข็นเวอร์ชั่นใหม่ออกมาคือ Wilcom Embroidery Studio e1.5 (ต่อไปขอเรียก Wilcom e1.5แทน)ออกมาแทน ปัจจุบันได้ออกเป็นเวอร์ชั่น 2.0 แล้ว

  สำหรับผู้ที่เคยใช้งานเวอร์ชั่น 9.0 ลงไปอาจจะรู้สึกงงมากถึงมาก ๆ แต่สำหรับผู้ที่เคยใช้เวอร์ชั่น 2006 จะทำความเข้าใจได้โดยไม่ยากเย็นนัก เพราะการใช้งานแทบจะไม่แตกต่างกันเลย การขยับไปใช้โปรแกรม Wilcom e1.5 จึงเป็นเหตุผลที่ลงตัว เอาล่ะครับมาดูกันว่า เวอร์ชั่นนี้มันมีอะไรเพิ่มใหม่กันบ้าง

1.หน้าตาของโปรแกรม Wilcom e1.5 จะเห็นว่ามีพื้นที่สำหรับใช้ทำลายปักที่เพิ่มมากขึ้น
(http://upic.me/i/q3/screenshot173.jpg) (http://upic.me/show/42160173)

2.โปรแกรมจะถูกแบ่งเป็น 2 ส่วนคือส่วนที่เป็นกราฟิกโหมด และ ส่วนที่่เป็นโหมดลายปัก
(http://upic.me/i/29/screenshot179.jpg) (http://upic.me/show/42160203)

3.ในส่วนของกราฟิกโหมด จะเป็นโปรแกรม CorealDRAW เวอร์ชั่น X3 ซึ่งในส่วนนี้เราสามารถแปลงภาพเวคเตอร์ที่ปรากฏในโปรแกรม CorelDRAW ให้เป็นลายปักได้โดยอัตโนมัติได้ทันที
(http://upic.me/i/xb/screenshot176.jpg) (http://upic.me/show/42160199)

4.เครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ ของโปรแกรมจะถูกรวมกลุ่มเป็นหมวดหมู่เพื่อให้เหลือพื้นที่ทำลายปักมากที่สุด โดยระบบนี้เรียกว่า Flyout และ Flyout แต่ละตัวเรายังสามารถดึงออกมาวางที่พื้นที่งานได้อีกด้วยเพื่อความสะดวกในการเลือกใช้งาน
(http://upic.me/i/5x/screenshot174.jpg) (http://upic.me/show/42160187) (http://upic.me/i/9n/screenshot175.jpg) (http://upic.me/show/42160190)

5.เมนูต่าง ๆ ของเครื่องมือทุกตัวจะมาอยู่ด้านขวาแทนเหมือนกับโปรแกรม Wilcom 2006 ที่เรียกว่า Modeless Dialog แต่ในเวอร์ชั่นนี้มีเพิ่มเข้ามาคือปุมหมุด เอาไว้ให้แสดง หรือ ถ้าทำเป็น Auto Hide เมนูก็จะซ่อนใน Docker Taps โดยอัตโนมัติเมื่อไม่ได้ใช้งานในส่วนของเมนู ทำให้เรามีเนื้อที่ของเนื้องานที่มากขึ้นอีก
(http://upic.me/i/qm/screenshot177.jpg) (http://upic.me/show/42160200) (http://upic.me/i/it/screenshot178.jpg) (http://upic.me/show/42160202)

6.สิ่งที่ทำให้ผู้ใช้โปรแกรมในเวอร์ชั่นนี้งงที่สุดคือการใช้เม้าส์ โดยตัวกลางของเม้าส์ที่ใช้หมุน ที่เรียกว่า Scroll จะมีการใช้งานที่แปลกออกไป ปรกติโปรแกรมจะกำหนดการหมุนของเม้าส์ไว้เป็นการซูมภาพเข้า-ออก แต่ถ้าเรากดปุ่ม Ctrl ค้างไว้แล้วหมุนเม้าส์ ก็จะเป็นการเลื่อนซ้าย-ขวา และถ้าเรากดปุ่ม Alt ค้างไว้ ก็จะเป็นการเลือนขึ้น-ลงแทน
(http://upic.me/i/18/screenshot180.jpg) (http://upic.me/show/42160207)

7.ในเวอร์ชั่นนี้ได้เพิ่มฟังก์ชั่นพิเศษคือ Closest Join โดยการปิด-เปิดฟังก์ชั่นนี้จากเมนู Options
(http://upic.me/i/o3/screenshot187.jpg) (http://upic.me/show/42160233)
เมื่อทำลายปักแล้วชิ้นงานล่าสุดและชิ้นงานต่อไป โปรแกรมจะหาจุดเชื่อมที่ใกล้ที่สุดให้เองโดยอัตโนมัติ เหมือนกับการบรันชิ่ง(Branching) จึงทำให้ลดเวลาวางแผนได้เยอะเลยทีเดียว
(http://upic.me/i/0c/screenshot181.jpg) (http://upic.me/show/42160210)
(http://upic.me/i/t7/screenshot182.jpg) (http://upic.me/show/42160218)

8.ถ้าปรับ Option ให้ใช้งาน Bézier เอาไว้ เวลาใช้งาน Reshape Object เราจะเห็นแขนควบคุม ไว้ปรับส่วนโค้งให้ดียิ่งขึ้นได้
(http://upic.me/i/45/screenshot183.jpg) (http://upic.me/show/42160220)
(http://upic.me/i/yh/screenshot184.jpg) (http://upic.me/show/42160221)

9.เครื่องมือใหม่คือ Knife tool เอาไว้ตัดลายปักให้เป็นส่วน ๆ ตามการลากของเราได้
(http://upic.me/i/us/screenshot185.jpg) (http://upic.me/show/42160227)
(http://upic.me/i/ja/screenshot186.jpg) (http://upic.me/show/42160231)

10.นอกจากนั้นที่ Option เราสามารถปิดเปิดเสียงตุ๊ด ๆ ติ๊ด ๆ ขณะทำลายปักได้อีกด้วย
(http://upic.me/i/1a/screenshot188.jpg) (http://upic.me/show/42160237)

หวังว่าสมาชิกที่เริ่มมาใช้โปรแกรม Wilcom e1.5 คงจะปรับตัวให้ใช้โปรแกรมเวอร์ชั่นนี้ได้ได้มากขึ้น พอใช้ไปสักระยะ แล้วท่านก็จะทราบศักยะภาพที่ซ่อนเร้นในเวอร์ชั่นนี้ในไม่ช้านี้ แล้วโปรแกรม Wilcom e1.5 จะกลายเป็นโปรแกรมหลักของท่านในไม่ช้านี้

เมื่อวานนั่งหาข้อมูลเรื่องโปรแกรม wilcom ค่ะอาจารย์ อยากรู้ว่าโปรแกรมนี้มันมีที่มายังงัย เปิดไปเปิดมา เจอ youtube สอนการใช้ wilcom embroidery studio e1.5 หรือ decostudio นี่ละคะ เห็นแล้วแบบว่านี่เลย แบบที่เหมาะกับมือใหม่อย่างเรา คือเอารูปไฟล์ที่ที่เราต้องการไปเปิดในโปรแกรมแล้วกดปุ่มเดียวมันก็จะทำใส่ลายปักให้เสร็จเลยค่ะ ไม่ต้องมานั่งลากเส้นทีละเส้น แอบอยากได้ขึ้นมาทันใด เลยไปนั่งหาข้อมูลว่า wilcom 2006 กับ พวก decostudio / embroidery studio มันต่างกันยังงัย กดหาใน google มันก็โชว์ที่อาจารย์โพสไว้เลยค่ะ เลยได้ความรู้กลับไปอีกเพียบ จริงๆ ในบอร์ดพวกข้อมูลมีค่อนข้างเยอะเลยนะคะ เพียงแต่ยังไม่มีเวลานั่งอ่านได้ทั้งหมด

ก่อนอื่นขอพูดถึง เวอร์ชั่น 9.0 ก่อนนะครับ  เวอร์ชั่น 9.0 ถือว่าเป็นการยกเครื่องการทำลายปักในโปรแกรมที่ทำให้ Wilcom ยืนแท่นเป็นโปรแกรมทำลายปักอันดับหนึ่ง เนื่องจากมีเครื่องไม้เครื่องมือ และ ลูกเล่นต่าง ๆ เพิ่มเข้ามามากมาย ซึ่งแม้แต่ปัจจุบันนี้หลาย ๆ ท่านก็ยังใช้โปรแกรมนี้อยู่เลย

ต่อมาก็ออกเวอร์ชั่น 2006 ซึ่งปรับปรุงหน้าตาการใช้โปรแกรมแทบจะทั้งหมด ฉีกแนวให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น แถมเพิ่มลูกเล่นเครื่องมือต่าง ๆ เข้ามาอีกเพียบ สำหรับคนที่ใช้เวอร์ชั่นก่อนหน้านี้อาจงงบ้างในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้แต่พอใช้ไปนาน ๆ จะรับรู้ถึงความวิเศษของมัน เป็นซีรีส์สุดท้ายของโปรแกรมทำลายปัก ซีรีส์ ES แล้วครับ และก็เป็นต้นแบบในเวอร์ชั่นต่อ ๆ ไปอีกด้วย

และแล้วยุคใหม่ของโปรแกรมทำลายปักก็เกิดขึ้น คือซีรีส์ Deco Studio โดยโปรแกรม Wilcom ได้ทำการจับมือกับโปรแกรมทำกราฟฟิกชื่อดังอย่าง CorelDRAW เพื่อหวังดันการทำลายปักแบบอัตโนมัติให้ดีขึ้น

Wilcom e1 จึงถือกำเนิดขึ้นมา แต่เนื่องจากทาง Wilcom ได้เน้นเวอร์ชั่นใหม่ให้ทำลายปักแบบอัตโนมัติมากเกินไป จึงตัดเครื่องไม้เครื่องมือออกไปเหลือให้ใช้ไม่กี่ตัว จึงทำให้เวอร์ชั่น e1 ล้มอย่างไม่เป็นท่า เนื่องจากลายปักอัตโนมัติที่ได้ ยังห่างชั้นกับการนำไปปักจริง ๆ ได้

Wilcom e1.5 จึงออกมาขัดตาทัพแทน e1 ถึงแม้ว่า e1.5 จะออกมาขัดตาทัพ แต่ทาง Wilcom ไม่ได้ทำชุ่ย ๆ แต่ปรับปรุงจนกลายเป็นสุดยอดโปรแกรมในช่วงนั้น เครื่องมือทำลายปักต่าง ๆ ก็ดึงคืนกลับมาจนครบ แถมเครื่องมือใหม่ ๆ และ ฟีเจอร์ใหม่ ๆ อีกมากมาย  e1.5 จึงเป็นต้นแบบในเวอร์ชั่น e2 และ e3 ต่อไป...

แต่ก็อย่างว่า การทำลายปักอัตโนมัติ มีดีแค่เร็วแค่นั้น ยังเทียบกับการทำลายปักด้วยมือไม่ได้ เนื่องจากสมองคนเราสามารถแยกแยะและคิดซับซ้อนกว่าคอมพิวเตอร์นั่นเอง...