ThaiEMB.com สังคมแห่งมิตรภาพ และการแบ่งปัน

เดือนนี้เป็นเดือนแรก งานทำแทบไม่ทันครับ พูดง่ายๆคือ จำนวนผ้าเค้าเริ่มส่งมาให้เยอะขึ้นๆ เยอะขึ้นเรื่อยๆ

ปกติ โรงงานน้า/อา ผมจะส่งให้ เดือนละ เฉลี่ยๆ 1 หมื่นตัว

แต่อีกโรงงานหนึ่งส่งให้ 1-2 พันครับ แต่เดือนนี้ ถีบสูงเป็น 6000 ตัว

ปรากฏว่าทำไม่ทันครับ ตอนนี้ไม่มีเงินเก็บครับ งวดผ่อนเครื่องปัจจุบัน ได้ 6 งวดแล้ว เหลือ 18 งวดเต็มๆ

แต่มันอาจเกิดความเสี่ยงที่ว่า ที่โรงงาน อีกเจ้าเค้าส่งงานมาให้ 6000 ตัว ไม่ใช่เพราะเราทำงานดีขึ้น

แต่เป็นเพราะเดือนนี้ จำนวนผ้ามันเยอะเท่านั้นเลยส่งให้ผมเยอะ หรือเปล่า ?

ถ้าหาก บางเดือน 6000 ตัว บางเดือน 2000 ตัวนี่ผมคงแย่แน่ๆครับ

แต่ถ้าจำนวนมันเพิ่ม และเพิ่มขึ้น แตะ 1 หมื่นตัว (โรงงานอีกเจ้า) ตรงนี้น่าลงทุนมากครับ

หรือว่าผมต้องไปปรึกษา สเมียร ที่โรงงาน เสียก่อนครับ ?

ใครมีประสบการณ์ การกู้เงินผ่อนเครื่องจักร แนะนำผมด้วยครับ  :laugh:

  ผมรู้แต่ว่า ช่วงที่ผ่อนเขา หาได้เท่าไหร่เงินก็ใช้หนี้จนหมด จนไม่เหลือเก็บ ทำให้ไม่มีทุนทรัพย์ในการขยายกิจการ ต้องทุกข์ทรมานจนกว่าจะใช้หนี้หมด เมื่อหมดหนี้นั้นแหละครับ ถึงค่อยได้เก็บได้ใช้

หมายเหตุ ไอ๊หยา สมาชิกใหม่มีกระทู้ ร้อยกว่ากระทู้แล้ว เยี่ยม ๆ ๆ ครับ

ครับ แต่ละเดือน เหมือนยังไม่ลงตัวเลยครับ  เหมือนจะมีเหลือหลายหมื่นบาท แต่ก็ถึงช่วง ซื้อไหม เงินก็หมด เป็นแบบนี้ทุกเดือน คือถ้ามีเงินก้อน ก็จะมีอันต้องใช้จ่าย จนหมดเกลี้ยง

สรุป แต่ละเดือน คุณพ่อผม จ่ายค่า พนักงานให้ ทุกเดือน :laugh:

หมายเหตุ ร้อยกว่ากระทู้ มีแต่นำปัญหา มาให้สมาชิกแก้ทั้งนั้นเลยครับ หรือเรียกได้ว่าตัวปัญหา ก็ไม่ผิดครับ :laugh:

คืออยากให้สมาชิกออกมาพูดกันเยอะ ๆ ครับทุกเรื่อง ทั้งถามปัญหา ตอบปัญหา พูดมีสาระบ้าง ไร้สาระบ้าง เพื่อที่จะทำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักเรามากขึ้น จะทำให้ความสัมพันธ์ของสมาชิกในบอร์ดมีความแน่นแฟ้นมากขึ้นครับ

มาแรกๆต้องยอมรับเลยครับ โดนดุทุกครั้ง เหตุเพราะ ถามปัญหา แต่ไม่นำข้อมูล มาให้สมาชิก พิจรณา  :laugh:

และต้องขอบคุณสมาชิกหลายๆ ท่านที่ให้การตักเตือนและคอยชี้แนะ ในเรื่อง มารยาทการใช้ภาษาที่ถูกต้อง และการช่วยเหลือเป็นอย่างดีครับ

จนหลังๆมานี้ เกิดความรักต่อบอร์ดครับ เลยแบ่งปันสิ่งดีๆ อันน้อยนิดที่มีอยู่ มาบ้างครับ  :supine:

อืม...เรื่องกู้เงินมาซื้อเครื่อง.....

กรณีที่ 1>>>สมมุติ...กู้เงินสดมา 1 ล้านบาท เพื่อซื้อเครื่องราคา 1 ล้าน
จะเสียดอกให้ แบงค์ตามที่กู้ ไม่แน่ใจดอกเบี้ย MRR น่าจะอยู่ประมาณ 7-7.5% คงที่ต่อปี
ผ่อน 1 ปี เสียดอก 7หมื่น5 ผ่อน 2 ปี เสียดอก 1แสน5 (ผมคิดเอาเองอ่ะ อิอิ)
หรือ 0.6-0.7% ต่อเดือนลดต้น เสียดอกประมาณเดือนล่ะ 7,000 นี้แหล่ะครับ อันนี้คือ .......สมมุตินะครับ

กรณีที่ 2>>>ส่วนมากถ้าเราจะกู้เงินแบงค์มาซื้อเครื่อง
ทางแบงค์จะประเมินให้ประมาณ 60-70% ของราคาเครื่องที่เหลือคือต้องดาวน์ (เครื่องราคา 1 ล้าน แบงค์ให้ 6-7 แสน ที่เหลือดาวน์)


กรณีที่ 3>>>ผ่อนกับบริษัท เครื่องราคา 1 ล้าน จะดาวน์แล้วแต่ตกลง จะผ่อนกี่ปีแล้วแต่ตกลง ดอกเบี้ยแล้วแต่ตกลง

ปล.ลองเอาหลายๆแบบมาเทียบเคียงกันดูนะครับ รอดูเหตุผลของท่านอื่นๆครับ :police: :police:

ขอแนะนำเพิ่มเติม จากประสบการณ์จริงน่ะครับ
เดิมแรกทีเดียว ผมซื้อเครื่องจักร 1 เครื่อง 20 หัว (เงินผ่อน 3 ปี) ทำไปทำมาในระยะเวลา 1 ปี งานมากกว่าเครื่องมีลูกค้ามากกว่า 1 เจ้า
ทำงานให้ลูกค้าไม่ทัน ไอยะ ทำยังไง 1. ซื้อเครื่องเพิ่มเลย (หนี้ชัดๆ เพราะไม่มีเงินสดซื้อแน่ๆ)
                                        2. หาโรงปักช่วยงานไปก่อน ดูแนวโน้มจะจำนวนงานที่ลูกค้าจะส่งให้
สรุปผมเลือกข้อ 2 หาโรงปักที่พอรู้ฝีมือกัน ช่วยทำกันไปก่อน ดูใจลูกค้ามา 3-4 เดือน ผมลงเครื่องใหม่เลย แต่ก็ผ่อนเหมือนเดิม
ซื้อกับเจ้าเก่านั้นแหละ หักคอผมไม่ดาวน์ ผมให้มัดจำแค่ 20000 เอาไหม เพราะเครื่องเก่าผมส่งตรงตลอดไม่เคยพลาด
        แต่ก็เป็นแบบที่ท่าน jtc พูด ถ้าเครื่องไม่หมด ก็ไม่มีเงินเก็บ เศร้าจัง อีก 3 ปีเราก็จะสบาย สู้ๆๆๆ ;D ??? ;D

เป็นเหมือนกันเลย เลยไม่มีเงินเก็บกะเขาสักที

ไม่เคยคิดเลย เรื่องดอก รู้อย่างเดียวก้มหน้าก้มตาทำงาน งานล้นมาก ก็ลงเครื่อง ให้งานผ่อนตัวมันเอง
ผ่อนไม่ไหว ห็ขายเครื่อง (พูดง่ายไปมั้ยเนี้ยะ) อย่าคิดอะไรเยอะ ปวดหัว ??? ??? ???

:cheer: :cheer:  ใช่เลย..ไม่เห็นต้องคิดอะไรมาก...คนอื่นทำได้..เราก็ทำได้..สู้สู้

ปัจจัยที่ทำให้เราต้องลงจักรเพิ่มคือ ปริมาณงานมันมีมากกว่ากำลังการผลิตของเรา และ จะต้องมีอย่างต่อเนื่องไม่ขาดตอน ไม่ใช่งานมาเป็นพัก ๆ แต่เอาจักรมาเพิ่มมันก็ไม่ไหวครับ มีจักรใหญ่วันไหนจักรหยุดเดินสักวันสองวัน มีหวังไข้ขึ้นแน่ครับ

สำหรับเจ้าของกระทู้ อยากให้คิดดี ๆ ก่อนลงจักรใหม่ครับ ลองหาเพื่อนที่พูดคุยกันในบอร์ดแล้วแบ่งงานบางส่วนที่เราทำไม่ทันให้กันดีไหมครับ แล้วกินเปอร์เซ็นต์เอาก็ได้ อย่างน้อย ๆ ก็ทำให้เรารักษาฐานลูกค้าของเราเอาไว้ได้ เมื่อพร้อมจริง ๆ ค่อยซื้อทีหลังยังไม่สาย

"เสรี"ใช่เลย..ไม่เห็นต้องคิดอะไรมาก...คนอื่นทำได้..เราก็ทำได้..สู้สู้

แบบนั้นคงไม่ดีมั้งครับ การลงทุนมีความเสี่ยง ควรศึกษาให้ดีก่อนหรือเปล่าครับ  :laugh:

ฝากงาน กลัวจะไม่มีที่ไหนรับครับ เพราะที่รับของน้ามาก็ คิดราคาถูกกว่าเจ้าอื่นๆอยู่แล้ว
ส่วนงาน อีกโรงงาน ผมก็ปักเองตลอด พูดง่ายๆ คือไม่ไว้ใจให้เจ้าอื่นปัก เพราะถ้าเสียมา หรือ ปักไม่ได้คุณภาพ นี่แย่แน่ๆ

ทุกอย่างถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ การหาโรงปักเป็นพันธมิตรไม่ใช่เรื่องยาก เอางานที่เรามีอยู่แบบที่ลูกค้าไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่เป็นการลองวิชา
หรือขอดูงานเก่าๆของเขามาดู หรือเข้าไปพูดคุยที่โรงงานของเค้าเลย และให้เค้าหยิบงานหน้าเครื่องให้เราดูเลย ถ้างานคุณมีตลอดมันก็ควร
ซื้อเครื่องใหม่ แต่ถ้าเดือนไหนเค้าไม่ส่งงานให้เลย เราต้องแบกทั้งค่าเครื่องและค่าแรงที่เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า คงหนักเอาการเอาใจช่วยครับ :bravo:

ส่วนผมเริ่มจากจักรเล็ก ( หัวเดียว เข็มเดียว ) พอมีงานบ้างแต่ไม่มาก คิดอยากได้จักรใหญ่ หลายๆเข็ม แต่กลัวไม่มีงานต่อเนื่อง สาเหตุจำเป็นที่ต้องเพิ่มจักรเพราะ (เจ้าหัวเดียว เข็มเดียว) น็อค งานค้างเพียบ ลูกค้าด่า ยกเลิกงาน (ปวดหัวชิบ......) เลยตัดสินใจถอย 2หัว 9เข็ม ทุกวันนี้งานตรึมๆๆๆๆ...  อยากบอกเพื่อนๆสมาชิกให้รู้ว่า เหตุจำเป็น อาจช่วยเราพลิกสถานการณ์ได้โดยไม่ต้องคิดอะไรมากมายนักก็เป็นได้...โชคดีและร่ำรวยทุกๆท่านครับ

ขอบคุณทุกท่าน ที่ให้การแนะนำที่ดีนะครับ  :delight: :bravo:

  คิดมากปวดหัว   ???  ลงอีกตัวหนึ่งดีกว่า  :)  ยังเชียร์ไม่เลิก  :cheer:  Hi Hi !!!

เสียงแข็งมากครับ ผมคงต้องทำงาน อดออม หาโอกาสเก็บเงินสักก้อนใหญ่ๆ ก่อนครับ
เผื่อฉุกเฉิน ล้มมาคนเค้าจะหัวเลาะเอา

ยังไงก็ขอบคุณมากๆนะครับ

ผมเองก็คิดอย่างนี้เหมือนกันครับ ก้าวบันไดไปทีละขั้นดีกว่าก้าวที 3-4 ขั้นเลยเกิดหัวทิ่มขึ้นมาแล้วกลับตัวลำบาก :)

แนวคอดผม ไม่ทำอะไรที่เกินตัว ถ้าไม่มีเงินเลยก็อย่าไปซื้อแล้วก็รับงานแต่พอดีตัวพอครับ หน้านักเรียนมีเจ้าใหญ่มาส่งให้มากผมยังไม่รับเลยเพราะรู้ว่าทำไม่ไหว เดีผ๋ยวจะเครียดเกินไม่คุ้ม